email-icon [email protected]
phone-icon + 66.(0)2.995 7470–1
logo

Cleanroom

  • Home
  • /
  • หน้ากากอนามัยคลีนรูม เกรดโรงพยาบาล ผ้าหนาแต่หายใจสะดวก

หน้ากากอนามัยคลีนรูม เกรดโรงพยาบาล ผ้าหนาแต่หายใจสะดวก

หน้ากากอนามัยคลีนรูม เกรดโรงพยาบาล ผ้าหนาแต่หายใจสะดวก

หน้ากากอนามัย (Face Mask)

หน้ากากอนามัย (Face Mask) เป็นสิ่งที่สำคัญต่อผู้คนมาเนิ่นนาน ไม่เพียงแค่ในยุค Covid-19 ระบาดเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว “หน้ากากอนามัย” ได้ถูกคิดค้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 หรือ ราว 400 กว่าปีก่อน โดยเริ่มใช้ในวงการแพทย์เพื่อต่อสู้กับโรคระบาด ก่อนจะขยายวงกว้างมาสู่ประชาชน เราจะเห็นได้ว่าปัจจุบันขอบเขตการใช้หน้ากากอนามัยนั้นกว้างกว่าเดิมมาก โดยเฉพาะการใช้ “หน้ากากอนามัย” ในห้องคลีนรูมที่ต้องการควบคุมความสะอาดจากฝุ่นละออง สารคัดหลั่งจากผู้ใช้งานห้องคลีนรูม เช่น น้ำลาย น้ำมูก และอนุภาคอื่นๆ มากเป็นพิเศษ

ประเภทของหน้ากากอนามัย (Face Mask)

หน้ากากอนามัย (Face Mask) มีประสิทธิภาพในการกรองคล้ายกับเครื่องกรองอากาศ (Air Filter) โดยมีหลายรูปแบบตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ได้แก่

หน้ากากอนามัย หน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรค

1) หน้ากากอนามัยทั่วไป

ป้องกันเชื้อโรคได้ 5 ไมครอน หรือป้องกันได้ 80% ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานประมาณ 3 วัน แต่ถ้ามีรอยฉีกขาดควรทิ้งโดยทันที

หน้ากากอนามัย N95

2) หน้ากากอนามัย N95

ป้องกันเชื้อโรคได้ 0.3 ไมครอน กรองได้ละเอียดกว่าชนิดแรก แต่มีข้อเสียอยู่ที่หากใส่ไปนานๆ จะทำให้หายใจลำบาก

หน้ากากอนามัยคาร์บอน

3) หน้ากากอนามัยคาร์บอน

เป็นหน้ากากที่มีความสามารถในการกรองฝุ่น รวมไปถึงควันและกลิ่นไม่พึงประสงค์บางอย่างได้ เนื่องจากมีส่วนผสมของตัวกรอง (Filter) ที่เป็นคาร์บอน สามารถกรองเชื้อแบคทีเรียได้ 95% กรองฝุ่นละอองขนาด 3 ไมครอนได้ถึง 66.37%

หน้ากากผ้า

4) หน้ากากผ้า

เป็นหน้ากากที่ถักทอจากผ้า ส่วนใหญ่จะผลิตจากผ้าฝ้าย มีคุณสมบัติในการกรองฝุ่นละออง

หน้ากากอนามัยห้องคลีนรูม สีขาว

5) หน้ากากอนามัยที่ใช้ในห้องคลีนรูม

ซึ่งมี 2-3 ชั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน มีคุณสมบัติเพื่อป้องกันสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก รวมไปถึงฝุ่นละอองและอนุภาคต่างๆ ไม่ให้ปนเปื้อนในห้องคลีนรูม โดยหน้ากากที่ใช้ในห้องคลีนรูมจัดอยู่ในประเภทสินค้าสิ้นเปลืองห้องคลีนรูม (Cleanroom Consumables/ Consumable Products)

มาตรฐานสำคัญที่ใช้วัดประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัย 

สถาบัน FDA หรือ อย. ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้กำหนดมาตรฐานทดสอบหน้ากากอนามัยที่ใช้ในโรงพยาบาล โดยแบ่งจากประสิทธิภาพในการกรอง ดังนี้
แผนภาพการจำลองขนาดอนุภาคต่างๆ เช่น ฝุ่น มลภาวะ ไวรัสโคโรน่า

แผนภาพจำลองขนาดอนุภาคต่างๆ

1) BFE > 99% (Bacterial Filtration Efficiency : BFE)

เป็นค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถของหน้ากากอนามัยในการกรองอนุภาคแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์อื่นๆ ซึ่งมีอนุภาคเฉลี่ย (Mean Particle Size : MPS) ขนาด 3-0.3 ไมครอน

2) PFE > 99% = (Particulate Filtration Efficiency : PFE) 

เป็นค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถของหน้ากากอนามัยในการกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กมาก ซึ่งมีอนุภาค (Particle Size) ขนาด 0.1 ไมครอน ดังนั้น จึงสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 ได้ จนกระทั่งไวรัสโคโรนาบางสายพันธุ์* ด้วย

3) VFE > 99% = (Viral Filtration Efficiency : VFE) 

เป็นค่าที่บ่งบอกความสามารถของหน้ากากอนามัยในการกรองอนุภาคของไวรัสบางชนิด ซึ่งมีอนุภาคเฉลี่ย (Mean Particle Size : MPS) ขนาด 3-0.3 ไมครอน

*เชื้อไวรัสโคโรนามีอนุภาคทรงกลมขนาด 0.06 - 0.14 ไมครอน เมื่อหน้ากากอนามัยมีค่า PFE สูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในป้องกันเชื้อและลดการแพร่กระจาย รวมไปถึงหมดกังวลปัญหาเรื่องฝุ่นละออง


ภาพจำลองการดักจับอนุภาคของหน้ากากอนามัย

ภาพจำลองการดักจับอนุภาคของหน้ากากอนามัย จากงานวิจัยเรื่อง Face masks against COVID-19: Standards, efficacy, testing and decontamination methods

ค่า Delta P ในการใช้หน้ากากอนามัย

Delta P หรือ Differential Pressure เป็นค่าชี้วัดความสะดวกในการหายใจ ซึ่งหากมีค่าน้อยกว่า 4 mmH2O / cm2 จะช่วยให้ผู้สวมใส่หน้ากากหายใจโปร่งสบายมากขึ้น

คลีนรูม (Cleanroom) กับการใช้หน้ากากอนามัย (Face Mask)

ห้องคลีนรูม (Cleanroom) เป็นห้องสะอาดที่ต้องมีการควบคุมปริมาณฝุ่นและการปนเปื้อนของอนุภาคต่างๆ สูงสุด เพื่อจุดประสงค์ต่างกันในการใช้งาน โดยจะมีลักษณะเป็นห้องผ่าตัด ห้องแรงดันบวก/ลบ ห้องแยกโรคผู้ป่วย ห้องคลีนรูมที่ใช้ในโรงงานอาหาร โรงงานยา อุตสาหกรรมน้ำมัน CBD (น้ำมันกัญชา) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ Semiconductor เป็นต้น

การออกแบบชุดในห้องคลีนรูม Design of Cleanroom Garment

โดยการใช้ห้องคลีนรูม (Cleanroom) จะต้องมีการจำกัดปริมาณฝุ่นที่จะเกิดขึ้นภายในห้อง ซึ่งความเข้มงวดของการจำกัดปริมาณฝุ่นและอนุภาคจะขึ้นอยู่กับ Cleanroom Class ที่กำหนดไว้ ซึ่งแหล่งที่มาของการปนเปื้อนของอนุภาคในห้องคลีนรูมมีอยู่มากมาย ทั้งจากสถานที่ เครื่องจักร สิ่งแวดล้อม จากผลิตภัณฑ์ และจากผู้ใช้งานภายในห้อง โดยในช่วงของการใช้งานห้องจะต้องมีการใส่ Cleanroom Garment เพื่อควบคุมปริมาณอนุภาคไม่ให้ปนเปื้อนสู่คลีนรูม รวมไปถึงการใช้หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันสารคัดหลั่งที่เกิดจากผู้ใช้งาน รวมไปถึงอนุภาคที่ติดตัวบุคคลอีกด้วย

Specially Protective Masks หน้ากากอนามัยป้องกันพิเศษ โดย Cleanroom by VOV International ป้องกันเหนือชั้น ผ้าหนาแต่หายใจสะดวก

1) หน้ากากอนามัยคลีนรูมชนิด 2 ชั้น และ 3 ชั้น (2 PLY/ 3 PLY Cleanroom Face Mask)

หน้ากากอนามัยคลีนรูมชนิด 2 ชั้น และ 3 ชั้น

• ผลิตและบรรจุใน Cleanroom Environment

• ตัวหน้ากากผลิตจาก Polymer ES ไม่เป็นขุย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

• สามารถผลิตแบบสายเกี่ยวหู หรือคาดไปหลังศีรษะได้ตามความต้องการ ผลิตด้วยการทอ Ultrasonic Bounded ทำให้ได้หน้ากากอนามัยสะอาดที่สุด ลดการปนเปื้อนของอนุภาคต่างๆ

หน้ากากคลีนรูมชนิด 3 ชั้น มีค่า BEF 95% ป้องกันแบคทีเรียขนาด 3 ไมครอน และ PEE 97.6% ป้องกันแบคทีเรียขนาด 0.1 ไมครอน

2) หน้ากากอนามัย SBPP ชนิด 2 ชั้น และ 3 ชั้น (2 PLY 3 PLY SBPP* Face Mask)

หน้ากากอนามัย SBPP ใช้ในโรงพยาบาลและห้องผ่าตัด ชนิด 2 ชั้น 3 ชั้น สีฟ้า สีเขียว และสีขาว

• ตัวหน้ากากผลิตจาก Spunbonded Polypropylene (SBPP) มีผิวสัมผัสนุ่ม ป้องกันการระคายเคืองและการแพ้ต่อผิวหนัง

• ปราศจากซิลิโคน และไม่เป็นขุย 

• สามารถผลิตแบบสายเกี่ยวหู หรือคาดไปหลังศีรษะได้ตามความต้องการ ผลิตด้วยการทอ Ultrasonic Bounded ทำให้ได้หน้ากากอนามัยสะอาดที่สุด ลดการปนเปื้อนของอนุภาคต่างๆ

• หน้ากากคลีนรูมชนิด 3 ชั้น มีค่า BEF 95% ป้องกันแบคทีเรียขนาด 3 ไมครอน และ PEE 97.6% ป้องกันแบคทีเรียขนาด 0.1 ไมครอน

• มี 3 สี ได้แก่ สีฟ้า สีเขียว และสีขาว

*SBPP เป็นหน้ากากที่ใช้ในห้องผ่าตัดและใช้โดยทั่วไปได้

Specially Protective Masks หน้ากากอนามัยป้องกันพิเศษในห้องคลีนรูม จาก Cleanroom by VOV International ผลิตภายใต้มาตรฐาน ISO 9002 และ 13485  อย่างเคร่งครัด ใช้การควบคุมคุณภาพโดยการวัดค่าอนุภาคและเส้นใย (Particle and Fiber Measurement) และ FTIR ในการจำกัดการปนเปื้อนจากอนุภาค ตามมาตรฐานการจำกัดปริมาณอนุภาคอย่าง EN149: 2001 FPP1 และ USA NIOSH N95 โดยสามารถผลิตได้ตามความต้องการ แม้แต่ความต้องการที่จำเพาะเจาะจงมาก