โช๊คประตู (Door Closer) บานสวิงอัตโนมัติ ตัวช่วยเปิดปิดประตูอย่างนุ่มนวล

ประตู มีส่วนประกอบต่างๆ มากมายที่สร้างให้กลายเป็นประตูประเภทต่างๆ เช่น ประตูบานเลื่อนสไลด์ (Sliding Door) ประตูสวิง (Swing Door) ประตูบานเลื่อนสไลด์ซ้อน (Telescopic Sliding Door) ประตูอัตโนมัติ (Automatic Door) และประตูกึ่งอัตโนมัติ (Semi Auto Door) ที่มีฟังก์ชันการใช้งานแตกต่างกันไป และควรเลือกใช้ให้เหมาะกับสถานที่

วันนี้ Door Studio จะพาไปทำความรู้จักกับโช๊คประตู (Door Closer) ที่ทำให้ประตูสวิงธรรมดามีฟังก์ชันที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใส่ระบบอัตโนมัติเพื่อความสะดวกสบายใากขึ้นอีกด้วย 

โช๊คประตู (Door Closer) คืออะไร?

โช๊คประตู คือ อุปกรณ์สำหรับใส่ประตูบานสวิง (บานประตูที่ต้องใช้แรงผลักเพื่อเปิดออกด้านหน้า) มีลักษณะเป็นเหมือนข้อพับและมีกลไกในการช่วยหน่วงประตู ทำให้มีการใช้งานที่นุ่มนวลขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใส่ระบบอัตโนมัติให้กลายเป็น ‘ประตูสวิงอัตโนมัติ (Automatic Swing Door)’ เพื่อมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยในสถานที่ที่มีเด็กและผู้สูงอายุมากขึ้นอีกด้วย

โดยโช๊คประตูสามารถใส่ในประตูสวิงหลากหลายสถานที่ เช่น บ้าน คอนโด โรงแรม รีสอร์ท รวมไปถึงสถานที่สาธารณะ ได้แก่ ประตูสวิงอัตโนมัติที่ใช้ในโรงพยาบาล ห้องผ่าตัด ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน (ออฟฟิศ) ธนาคาร เป็นต้น

ข้อดีของ โช๊คประตู คืออะไรบ้าง?

นอกจากโช๊คประตูมีส่วนช่วยในการหน่วงประตูเปิด/ปิดแล้ว ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้แก่

• ช่วยลดแรงกระแทกของประตู ในขณะที่อาจมีลมพัดแรง ทำให้ประตูเกิดแรงเหวี่ยงมาก แต่โช๊คประตูจะช่วยหน่วงประตู ช่วยปกป้องประตู และผนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• ลดเสียงรบกวนที่เกิดจากการปิดประตูแรงๆ อย่างไม่ตั้งใจ

• เพิ่มความปลอดภัย ในกรณีที่ลืมปิดประตูหรือปิดไม่สนิท นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อใช้งานคู่กับระบบอัตโนมัติ รวมไปถึงระบบ Safety อื่นๆ

• ช่วยควบคุมอุณหภูมิห้อง เนื่องจากโช๊คประตูจะช่วยทำให้ประตูปิดได้เองในกรณีที่ลืมปิดประตู หรือปิดไม่สนิท และเป็นการช่วยประหยัดไฟฟ้าอีกทางหนึ่ง

• โช๊คประตูสำหรับประตูสวิงมีประโยชน์มากในการใช้งานในพื้นที่โรงพยาบาล โดยเฉพาะห้องผ่าตัดที่ต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยด้วยการเข็นเตียง การขนย้ายอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ต่างๆ รวมไปถึงอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานรถเข็น และผู้ที่มีความลำบากในการเคลื่อนไหวร่างกายอีกด้วย

การเลือกใช้โช๊คประตูให้เหมาะกับสถานที่ ควรเลือกใช้แบบไหน?

พื้นที่ส่วนตัว (Private Space) ที่พักอาศัย (Residential)

โดยทั่วไปที่พักอาศัยส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้หน้าบานประตูที่มีขนาดใหญ่มากนัก โช๊คประตูที่ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมจึงเป็นโช๊คประตู้ที่รับน้ำหนักได้พอเหมาะ ขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป โดย DVA40 จาก Door Studio เป็นโช๊คประตูที่เหมาะสำหรับรองรับบานประตูน้ำหนักสูงสุดถึง 125  kg เหมาะกับการใช้งานภายในพื้นที่ส่วนตัว ที่พักอาศัย โรงแรม หรือรีสอร์ท เป็นต้น

• ระบบทำงานเงียบ 

• ป้องกันไฟ

• เคลือบด้วย Powder Coat หรือ Silver Anodize เพื่อป้องกันการผุกร่อนและต้านทานแรงเสียดสี

• โช๊คติดตั้งที่บานพับของประตู จึงสามารถเปิดจากด้านซ้ายหรือด้านขวาก็ได้

• รองรับมาตรฐาน EN 179 และ EN 1125

• การทดสอบวัสดุด้วยมาตรฐานเยอรมัน DIN 18263-4/EN 1158

ข้อมูลเชิงเทคนิค (Technical data)

Dimensions (W x H x D): 60 x 560 x 78 mm

Weight: 2.9 kg

Power consumption: max. 0.15 W

Standby operation: 1 W

Opening angle: max. 115°

พื้นที่สาธารณะ (Public Space) หรือสถานที่ที่มีหน้าบานประตูใหญ่

การใช้หน้าบานประตูที่ค่อนข้างใหญ่และมีน้ำหนักมาก ควรใช้โช๊คประตูที่มีการรองรับน้ำหนักมากๆ ได้ โดย ระบบประตูสวิง DVA80 จาก Door Studio มาตรฐานจากเยอรมัน โช๊คแข็งแรง ทนทาน เปิด/ปิดได้อย่างนุ่มนวล เหมาะสำหรับบานประตูน้ำหนักสูงสุดถึง 660 kg และบานประตูที่มีความสูงถึง 1600 mm

• ระบบทำงานเงียบ เหมาะกับสถานที่ที่ต้องการความเงียบเป็นพิเศษ เช่น โรงพยาบาล ห้องผ่าตัด สำนักงานออฟฟิศ ประตูหนีไฟในพื้นที่ต่างๆ รวมไปถึงประตูสุญญากาศ (Hermetic Door) แบบสวิงอีกด้วย

• ป้องกันไฟ

• เคลือบด้วย Powder Coat หรือ Silver Anodize เพื่อป้องกันการผุกร่อนและต้านทานแรงเสียดสี

• โช๊คติดตั้งที่บานพับของประตู จึงสามารถเปิดจากด้านซ้ายหรือด้านขวาก็ได้

• รองรับมาตรฐาน EN 179 และ EN 1125

• การทดสอบวัสดุด้วยมาตรฐานเยอรมัน DIN 18263-4/EN 1158

• สามารถใส่ Accessories เพิ่มเติมได้ เช่น ระบบเซนเซอร์อัตโนมัติ Safety Button

ข้อมูลเชิงเทคนิค (Technical data)

Dimensions (W x H x D): 85 x 680 x 145 mm

Weight: 11 kg

Power consumption: max. 80W

Standby operation: 7 W

Opening angle: max. 135°